วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ต้นอ่อนทานตะวัน ประโยชน์ทั้งนั้น

 * ต้นอ่อนทานตะวัน ประโยชน์ทั้งนั้น *
ต้นอ่อนทานตะวัน 3
          ต้นอ่อนทานตะวัน พืชต้นเล็กๆก่อนที่จะโตแล้วออกดอกบานสะพรั่ง สีเหลืองทอง ดอกโต ต้นอ่อนทานตะวัน ที่เพาะจากเมล็ดทานตะวัน ประมาณ 7-11 วัน จะมีลักษณะใบสีเขียวอ่อนคู่ ลำต้นสีขาว คล้ายต้นถั่วงอก แต่ลำต้นจะเล็กกว่าและสูงกว่า ปลูกก็ง่าย แถมมีประโยชน์มากมาย
          ประโยชน์ของต้นอ่อนทานตะวัน
  • บำรุงผิวพรรณ
  • ชะลอความแก่
  • บำรุงสายตา
  • มีสาร GABA (Gamma aminobotyric acid) ป้องกันอัลไซเมอร์
  • มีวิตามิน A, B1, B6, E
  • มีธาตุเหล็
  • มีโอเมก้า 3, 6,9
  • มีโปรตีนสูงกว่าถั่วเหลือง
  • มีโฟเลตสูง ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย
  • ป้องกันโรคหัวใจและโรคมะเร็ง
  • มีไฟเบอร์สูง ช่วยในการขับถ่าย
อ่านต่อ : http://dewaneyat.com/?p=68

เผยเคล็ดลับการทำไข่เยี่ยวม้า

 * เผยเคล็ดลับการทำไข่เยี่ยวม้า * 
วิธีทำไข่เยี่ยวม้า
          ไข่เยี่ยวม้า เป็นอาหารแปรรูปอีกอย่างหนึ่ง โดยประเทศที่เริ่มเป็นประเทศแรก คือ ประเทศจีน เป็นการถนอมอาหารที่ เก็บไว้ได้นานเป็นปีๆ โดยการนำไข่เป็ดมาแปรรูป เพราะว่าไข่แดงจะใหญ่กว่าใข่ชนิดอื่น งั้นเรามาเริ่มทำไข่เยี่ยวม้ากันได้เลย
วัตถุดิบในการทำ ไข่เยี่ยวม้า
- ไข่เป็ด 15 ฟอง
- ปูนขาว 300 กรัม
- เกลือ 200 กรัม
- ใบชาดำ 30 กรัม
- น้ำสะอาด 2 ลิตร
- สังกะสีออกไซด์ 1 กรัม
- โซเดียมคาร์บอเนต 120 กรัม
ขั้นตอนการทำ ไข่เยี่ยวม้า
วิธีทำไข่เยี่ยวม้า 1
1. ทำความสะอาดไข่ เช็ดให้แห้ง นำไปเรียงในขวดโหล
2. ต้มน้ำ แล้วใส่ปูนขาว เกลือ โซเดียมคาร์บอเนต ใบชาดำ จนละลาย แล้วปิดไฟ ทิ้งไว้จนเย็น
3. เอากระดาษมากรองตะกอน เติมสังกะสีออกไซด์ คนให้เข้ากัน
4. เทน้ำต้มลงในโหลให้ท่วมไข่ หาถุงพลาสติกใส่น้ำ กดให้ไข่จมลง
5. ปิดทิ้งไว้ 30 วัน
6. เมื่อครบแล้ว เทน้ำในโหลทิ้ง ล้างไข่ด้วยน้ำสะอาด
7. เคลือบไข่ด้วยดินขาวผสมแป้งเปียก เก็บไว้ 10 วัน ก็สามารถรับประทานหรือไปประกอบอาหารได้
ขอบคุณข้อมูลจาก Mthai

วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เผยสูตรทำหมูกรอบ ใน 50 นาที

* เผยสูตรทำหมูกรอบ ใน 50 นาที *
วิธีทำหมูกรอบ
          หมูกรอบ กับอาหารตามสั่ง เป็นของคู่กัน เพราะใครสั่งก็สั่ง กะเพราหมูกรอบ คะน้าหมูกรอบ อะไรๆก็หมูกรอบ เพราะรสชาติของหมูกรอบนั้นถูกปากของใครหลายๆคนและความกรอบของหนังของมัน อร่อยจนทุกคนต้องติดใจกันเลยทีเดียว วันนี้เรามาเรียนรู้การทำหมูกรอบกัน (เคล็ดลับของสูตรนี้คือ ไม่ต้องต้ม ไม่ต้องทอด ไม่ต้องตาก)
อุปกรณ์ของเราก็มี
  • เตาอบ
  • มีดแกะสลัก
วัตถุดิบและเครื่องปรุง
  • หมูสามชั้น
  • น้ำส้มสายชู
  • น้ำปลา
  • เกลือป่น
ขั้นตอนการทำหมูกรอบ
  1. ล้างเนื้อหมูสามชั้น
  2. ใช้มีดแกะสลักเจาะลงไปหลายๆรู แล้วบั้งเป็นริ้วๆ
  3. นำหมูไปแช่น้ำส้มสายชูที่ผสมกับน้ำปลา แช่ไว้ 5 นาที
  4. นำเข้าเตาอบ ใช้ไฟประมาณ 220 องศาเซลเซียส นาน 20นาที
  5. นำออกมาโรยเกลือเล็กน้อย แล้วพลิกด้านหนังขึ้น อบต่ออีก 30 นาที
          เป็นอย่างไรกันบ้าง ใช้อุปกรณ์ที่มีในบ้าน แค่ซื้อหมูสามชั้นมา ก็ทำได้แล้ว ประหยัดตังค์ด้วย ใช้เวลาเพียงแค่ 50 นาที ก็ได้หมูกรอบที่เหลือน่าทานสุดๆ โดยไม่ต้องทอดในน้ำมันให้เปลืองเลย

สอนทำ ตำปูม้า

* สอนทำ ตำปูม้า *
ตำปูม้า
          วันนี้เราจะมาสอนทำ ส้มตำปูม้า เมนูที่ใครๆก็ชอบกิน ส้มตำก็แซ่บ ได้กินปูม้าอีก แซ่บแน่ๆ ได้รสชาติทั้งเผ็ด ซี๊ด แซ่บ เราไปดูวิธีการทำตำปูม้ากันเถอะ
ส่วนประกอบ
1. มะละกอ 200 กรัม
2. แครอท 50 กรัม
3. ถั่วฝักยาว 3 ฝัก
4. มะเขือเทศสีดา 4 ลูก
5. พริกขี้หนูแดง 7 เม็ด
6. กระเทียมกลีบเล็ก 7 กลีบ
7. ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
8. กุ้งแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
10. น้ำตาลปี๊ป 2 ช้อนโต๊ะ
11. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
12. ปูม้าแช่เย็น 1 ตัว

วิธีทำ
1. ปอกเปลือกมะละกอและแครอท จากนั้นขูดให้เป็นเส้นยาวและพักไว้
2. ทุบกระดองปูและก้ามปูให้พอแตก สับเป็นชิ้นพอดีคำ
3. ตำพริก กระเทียม และเด็ดถั่วฝักยาวใส่ลงไป ตำให้พอแหลก
4. หั่นมะเขือเทศสีดาตามลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล น้ำมะนาว ตำเล็กน้อยพอเข้ากัน
5. เติมปูม้า มะละกอ และแครอทลงไป ตำให้เข้ากันดีค่อยเติมถั่วลิสง กุ้งแห้ง คนให้พอเข้ากันดีแล้วจัดเสิร์ฟได้เลยจ้าาา

ไปเที่ยวเกาะตาชัย ทะเลใส ฟ้าสวย

* ไปเที่ยวเกาะตาชัย ทะเลใส ฟ้าสวย *
เกาะตาชัย
          เกาะตาชัย ที่อยู่บนหมู่เกาะสิมิลัน ซึ่งความเป็นมาของของชื่อเกาะนั้นมาจาก ชายชื่อ ตาชัย ที่พบเกาะเป็นครั้งแรก และตั้งชื่อตามชื่อคนค้นพบว่า "เกาะตาชัย" ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชมความสวยงามใน น้ำใส ฟ้าสวย ได้ไม่นาน ตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ ถึง เมษายน จากนั้น จะปิดเกาะ 6 เดือน ก็เป็นการดีที่ทำให้ได้ฟื้นฟูสภาพแวดล้อมของเกาะ
          จุดเด่นของเกาะตาชัย ที่ทำให้ใครๆก็อยากมาเที่ยวกัน ก็คือ ชายหาดที่มีทรายขาว เม็ดระเอียดนุ่มละมุม และมีความยาวของชายหาดกว่า 700 เมตร และปูไก่ ปูน้ำจืดที่อาศัยตามธารน้ำภายในเกาะ ซึ่งปกติปูชนิดนี้จะมีเสียงร้องคล้ายไก่ ลำตัวจะมีสีแดงสด ก้ามสีดำน้ำเงิน และออกหากินตอนกลางคืน
เกาะตาชัย2
          และกิจกรรมอีกอย่างหนึ่งคือ กิจกรรมดำน้ำดูปะการัง ที่ทอดยาวตามชายหาด ซึ่งเป็นที่ที่สวยงามแห่งหนึ่งของประเทศไทย

วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2558

สอนทำอาหาร ผัดผักบุ้ง

*  สอนทำอาหาร ผัดผักบุ้ง  *
(STIR-FRIED SWAMP CABBAGE WITH SALTED SOYA BEAN)
ผัดผักบุ้ง
         ผัดผักบุ้ง กับข้าวที่ทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือ ข้าวต้มก็แสนอร่อย ซึ่งเครื่องปรุงมีไม่มากมาย แถมทำง่ายด้วย เพราะวัตถุดิบที่ใช้ มีเพียงน้อยนิด ก็เป็น ผัดผักบุ้ง ได้แล้ว ไปเตรียมวัตถุดิบแล้วลงมือทำได้เลย
วัตถุดิบและส่วนประกอบ
1. ผักบุ้ง 300 กรัม
2. กระเทียมสับละเอียด 10 กลีบ
3. พริกทุบ พอแหลก 3-5 เม็ด
4. น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
5. เต้าเจี้ยว 1 ช้อนชา
6. ซอสหอยนางรม 2 ช้อนชา
7. น้ำตาล 1 ช้อนชา
ขั้นตอนการทำ ผัดผักบุ้ง
1. ล้างผักบุ้งให้สะอาด หั่นเป็นท่อน ประมาณ 2 นิ้ว
2. นำถ้วยขนาดใหญ่ ใส่ผักบุ้งที่หั่นเมื่อกี๊ ใส่เครื่องปรุงรส ได้แก่ กระเทียมสับ, พริก, น้ำมันหอย, เต้าเจี้ยว, น้ำตาล
3. ตั้งกระทะไฟแรง ใส่น้ำมันลงไป รอจนเริ่มมีควัน
4. ใส่วัตถุดิบทั้งหมดที่เราเตรียมไว้ในถ้วยลงไป
5. ผัดอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาประมาณ 15 วินาที แล้วผ่อนไฟลง ผัดจนสุก
6. ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
          เห็นไหมว่า ผัดผักบุ้ง นั้นใช้เวลาเพียงไม่นาน วัตถุดิบก็ไม่มากมาย ก็ได้ชิม ผัดผักบุ้ง ที่แสนอร่อยฝีมือตัวเองแล้ว ทำไม่ยากนะ ลองไปทำกันดู
ขอบคุณภาพจาก อินเตอร์เน็ต
ขอบคุณข้อมูลจาก EzyTaiCooking

สอนทำส้มตำไทยแซ่บๆ

*  สอนทำส้มตำไทยแซ่บๆ  *
ตำไทย
          ตำไทย ถือว่าเป็นหนึ่งในอาหารประจำชาติของคนไทย ที่คนต่างชาติและคนไทยชอบกินมากที่สุด ติด 1 ใน 10 อาหารยอดนิยนของคนไทย และยังติดอับดัน 46 ของโลก จากผลการสำรวจของเว็บไซต์ cnngo.com 
วัตถุดิบ
- มะละกอดิบ หั่นฝอย 2 ถ้วย
- แครอทหั่นฝอย 1/2 ถ้วยตวง
- ถั่วฝักยาว 1/2 ถ้วยตวง หั่นประมาณ 1"
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปิ๊บ 1.5 ช้อนโต๊ะ
- ถั่วลิสงค์
ขั้นตอนการทำ ตำไทย
1. โคลกพริกกับกระเทียม ตำพอแหลก และใส่กุ้งแห้ง
2. ใส่เส้นมะละกอ แครอท ถั่วฝักยาวลงไป
3. ปรุงรสด้วยน้ำตาลปิ๊บ, น้ำปลา, น้ำมะนาว ให้ออกรสหวาน เผ็ดและเปรี้ยว ตามใจชอบ
4. ใส่ถั่วลิสงค์ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
5. ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมเนื้อทอด ไข่ต้ม หรืออะไรก็ได้ที่อยากกิน
เพียงเท่านี้ก็ได้ ตำไทย ที่อร่อยเหลือหลายแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก : EzyThaiCooking

ขั้นตอนการทำ แกงจืดสาหร่าย

*  ขั้นตอนการทำ แกงจืดสาหร่าย  *
แกงจืดสาหร่าย
           แกงจืด ที่ไม่จืดสมชื่อของมัน เพราะรสชาติของแกงจืดนั้นทำให้คนป่วยอาการดีขึ้น หรือจะกินเป็นกับข้าวก็สุดแสนจะเช้ากัน แต่แกงจืดที่ทำแบบเดิมซ่้ำๆ ก็คงจะน่าเบื่อ ถ้ามีสาหร่ายใส่ลงไป รสชาติเปลี่ยน แถมยังอร่อยยิ่งขึ้น เราไปเริ่มทำ แกงจืดสาหร่าย กันเลย
วัตถุดิบและเครื่องปรุง
1. หมูสับ 150 กรัม
2. สาหร่าย 30 กรัม ฉีกเป็นชิ้นๆพอคำ
3. ต้นหอม 2 ต้น (หั่นเป็นท่อนประมาณ 1 นิ้ว)
4. ขึ้นฉ่าย  1 ต้น (หั่นเป็นท่อนประมาณ 1 นิ้ว, เก็บไว้โรยหน้าอีก 2-3 ใบ)
5. ตั้งฉ่าย 1/2 ช้อนชา
6. เครื่องปรุงรส น้ำตาล1/4 ช้อนชา, น้ำปลา 1 ช้อนชา, ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนชา, พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา, กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะฃ
7. น้ำซุปกระดูกหมู 2 ถ้วยตวง(หรือจะเป็นน้ำเปล่าก็ได้
ขั้นตอนการทำ แกงจืดสาหร่าย
1. ต้มน้ำให้เดือด จะเป็นน้ำซุปกระดูกหมู หรือน้ำเปล่าใส่คะนอร์หมุก็ได้
2. ระหว่างต้มน้ำ ให้หมักหมูสับก่อน โดยหมักกับ ซีอิ๊วขาว,น้ำตาล,น้ำปลา ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
3. เมื่อน้ำซุปเดือด ให้ใส่หมูลงไป ต้มจนหมูสุก
4. ใส่ต้นหอม ตั้งฉ่าย ขึ้นฉ่ายและสาหร่าย ปรุงรสด้วย น้ำปลา พริกไทย คนให้เข้ากัน แล้วปิดไฟ
5. ตักต้มจืดใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยขึ้นฉ่ายและกระเทียมเจียว
6. เสิร์ฟกับข้าวสวยร้อนๆ หรือจำทานเล่นก็ยังได้ อร่อยไปอีกแบบ
ขอบคุณข้อมูลจาก EzyThaiCooking

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ทอดเฟรนฟรายด์อย่างไร ให้กรอบ?

*  ทอดเฟรนฟรายด์อย่างไร ให้กรอบ?  *
ทอดเฟรนฟรายด์อย่างไรให้กรอบ
          เฟรนฟรายด์ ของกินเล่นอย่างนึง ที่แสนอร่อย เมื่อเราอยากกิน ซื้อมาไว้ในตู้ แต่ทอดทีไรก็ไม่กรอบ อร่อย วันนี้เราพร้อมมาเผยเคล็ดลับการทอดเฟรนฟรายด์อย่างไรให้กรอบ
คำถามจากคุณ very_berry สมาชิกเว็บไซต์ pantip ว่า 
"พอดีซื้อเฟรนฟรายด์แบบแช่แข็งมานะค่ะ  อยากทราบว่าจะทอดอย่างไรให้กรอบ   หมายถึงต้องตั้งไฟอย่างไรคะ  เพราะทอดทีไรมันยังอ่อนๆ นะค่ะ  แต่พอแรงไปมันก็ไหม้ไปเลยและหากเราจะทอดครั้งเดียวเยอะๆ แต่เก็บไว้กินเป็นครั้งๆ ไป อยากทราบว่าต้องเก็บอย่างไรคะที่จะให้มันฝรั่งกรอบเหมือนเพิ่งทอดใหม่ๆ นะค่ะ  คือว่าขี้เกียจว่าจะกินทีแล้วทอดทีนะค่ะ  อยากจะประมาณว่าทอดไว้ทีเดียวเลย อยากทราบว่าต้องจัดเก็บอย่างไรคะ ขอบคุณค่ะ"
วิธีการทอดเฟรนฟรายด์อย่างไรให้กรอบ
ทอดเฟรนฟรายด์อย่างไรให้กรอบ 1
1. ถ้าเฟรนฟรายด์เพิ่งเอาออกมาจากตู้เย็น ก็นำลงทอดเลย โดยใช้ไฟแรง ประมาณ 10 นาที
2. ทอดไฟอ่อนๆ ประมาณ 20 นาที
3. ทอด 2 ครั้ง โดยครั้งแรกทอดไฟอ่อนๆ และครั้งที่สองใช้ไฟแรงๆ ฟู่เดียว

ขอบคุณคำถามจากคุณ very_berry คำตอบจากคุณ เจ้าแม่รูท66, คุณป้าหน้าใส, F Fu Yong สมาชิกเว็บไซต์ pantip

เผยวิธีทำ กุ้งแช่น้ำปลา

*  เผยวิธีทำ กุ้งแช่น้ำปลา  *
กุ้งแช่น้ำปลา
         เมนู กุ้งแช่น้ำปลา เป็นออเดิฟชั้นดี เวลาที่เราไปนั่งชิวกับเพื่อนๆ ในงานสังสรรค์ หรือทานเล่นก็ยังได้ ซึ่งกรรมวิธีการทำนั้นไม่ยุ่งยากซับซ้อนได้ๆเลย ดังนั้น ทางเราอยากจะพาทุกคนไปทำ "กุ้งแช่น้ำปลา" ฉบับง่ายๆกันนะครับ
ส่วนประกอบ
1. กุ้งทะเลตัวใหญ่ๆ 20 ตัว
2. โซดา
3. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
6. ใบสาระแหน่, มะระฝานเป็นชิ้น, กะหล่ำปลี, พริกขี้หนู

มาถึงขั้นตอนการทำ "กุ้งแช่น้ำปลา"
1. นำกุ้งมาแกะเปลือก ดึงหัวออก และผ่าหลังเอาเส้นดำออก
2. นำกุ้งไปแช่ในน้ำโซดา ทิ้งไว้ประมาณ 1 - 2 นาที แล้วเทน้ำโซดาออก (โซดาจะทำเนื้อกุ้งเกือบสุก และทำให้กรอบขุึ้น)
3. ผสมน้ำปลา, น้ำมะนาว ผสมให้เข้ากัน นำกุ้งลงไปแช่อีก 1 นาที
4. นำกุ้งไปจัดใส่จาน พร้อมทั้งผักที่เตรียมไว้ ทำเป็นคำ
5. (ขั้นตอนการทำน้ำราด) พริกขี้หนูสับ 1 ช้อนโต๊ะ, กระเทียมสับ 5 กลีบ, น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากัน ชิมรสให้แซ่บจนพอใจ
6.  ราดน้ำลงไปในจานและบนตัวกุ้ง
          เพียงเท่านี้เราก็ได้ กุ้งแช่น้ำปลา ฝีมือตัวเองให้รับประทานกันแบบแซ่บๆแล้ว
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

ข้าวต้มหมูสับร้อนๆ แก้ไข้ แก้หนาว

*  ข้าวต้มหมูสับร้อนๆ แก้ไข้ แก้หนาว  *
ข้าวต้มหมูสับ

         ข้าวต้ม เป็นอาหารเช้าเบาๆท้อง หรือเป็นอาหารแก้ไข้ของคนป่วยได้ดี มีประโยชน์ อิ่มท้อง แถมทำง่ายซะด้วย เราจะมาเสิร์ฟข้าวต้มหมูสับร้อนๆ หอมๆ ไปดูกันว่า กว่าจะเป็นข้าวต้มหมูสับ 1 ชาม จะใช้เวลานานแค่ไหน
วัตถุดิบในการทำข้าวต้มหมูสับ
- น้ำ 4 ถ้วย
- หมูสับปรุงรส 200 กรัม
- ซีอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยป่น 2 ช้อนชา
- ข้าวหอมมะลิหุงสุก 300 กรัม
- กระเทียมเจียว, ต้นหอมซอย, ตั้งฉ่าย สำหรับโรยหน้า
ขั้นตอนการทำข้าวต้มหมูสับ
1. ต้มนำจนเดือด ใส่หมูสับที่ทำเป็นก้อนพอดีคำ ลงไปในหม้อ รอจนสุก
2. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย พริกไทยป่น ลดไฟลง
3. ตั้งไฟอีกหม้อ เอาข้าวหอมมะลิลงไป ต้มจนข้าวนุ่ม
4. ตักใส่ถ้วย ตตามด้วยน้ำซุฟ หมูสับ โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว, ต้นหอมซอย, ตั้งฉ่าย
เพียงเท่านี้ก็จะได้ข้าวต้มหมูสับร้อนๆ ที่มีประโยชน์ไว้รับประทานแล้ว

ชวนชิมโคขุนโพนยางคำ ที่ ขอนแก่น

*  ชวนชิมโคขุนโพนยางคำ ที่ ขอนแก่น  *
โคขุนโพนยางคำ ขอนแก่น
          พูดถึงเนื้อโคขุน ก็ต้องโคขุนโพนยางคำ วันนี้เรามานำเสนอ ร้าน ลุงแซม โคขุนโพนยางคำ กันที่เมืองขอนแก่น “ร้านลุงแซม โคขุนโพนยางคำ” เกิดขึ้นจากความชื่นชอบในการทานเนื้อโคขุนโพนยางคำของคุณโดม เจ้าของร้าน จึงเกิดความคิดที่อยากจะมีร้านโคขุนโพนยางคำเป็นของตัวเอง และได้ทำการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโคขุนโพนยางคำ เพื่อให้ชาวขอนแก่นได้ลิ้มลองรสชาติความอร่อยของโคขุนโพนยางคำ ที่แตกต่างจากโคขุนธรรมดาทั่วไป
โคขุนโพนยางคำ ขอนแก่น 1
          แบบบุฟเฟ่ ราคา 249 บาท หรือจะกินแบบสั่งเป็นชุด ก็เลือกตามใจชอบได้เลย แถมยังสามารถกินได้แบบไม่จำกัดเวลากันเลยทีเดียว 
โคขุนโพนยางคำ ขอนแก่น 3
น้ำจิ้มสูตรเด็ด 3 รส ที่เป็นสูตรของทางร้านคิดค้นขึ้นเอง มีทั้งแบบเปรี้ยวหวาน แบบเผ็ด และ แบบขม
ที่ตั้งของร้าน : ถนนคลองน้ำ ใกล้กับตะวันแดง
เวลาเปิดร้าน : 5 โมงเย็น ถึง 4 ทุ่ม ทุกวัน
เบอร์ร้าน : 081-9756018
ขอบคุณข้อมูลจาก : zappnuar

สอนทำน้ำจิ้มซีฟู๊ด

* สอนทำน้ำจิ้มซีฟู๊ด *
สอนทำน้ำจิ้มซีฟู๊ด
          อาหารทะเล ก็ต้องคู่กับน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสแซ่บ เผ็ดๆ เปรี้ยวๆ หวานเค็มลงตัว หรือหลายคนอาจจะชอบทานเนื้ออย่างอื่นมาจิ้มกับน้ำจิ้มนี้  สำหรับน้ำจิ้มซีฟู๊ดนั้นไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยากเลย เรามาดูขั้นตอนการทำน้ำจิ้มซีฟู๊ด ของคุณ baokalasin สมาชิกเว็บไซต์พันทิปกัน ว่าจะแซ่บ สมเป็นน้ำจิ้มซีฟู๊ดหรือไม่
วัตถุดิบการทำน้ำจิ้มซีฟู๊ด มีดังนี้
1. ผักชี 4 ขีด
2. กระเทียม 4 ขีด
3. พริก 4 ขีด
4. น้ำตาลปิ๊บ 1 กิโลกรัม
5. เกลือ 5 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำมะนาว 4 กระบวย
7. น้ำร้อน 3 กระบวย
8. ผงชูรส
(สามารถเพิ่มวัตถุดิบได้ตามใจชอบ)
มาถึงขั้นตอนการทำ น้ำจิ้มซีฟู๊ด
1. นำน้ำตาลปิ๊บ, ผงชูรส, เกลือ, น้ำร้อน ผสมจนละลายเข้ากัน
2. ใส่น้ำมะนาวลงไป คนให้เข้ากัน
3. ใส่ผัดชี, กระเทียม, พริก, และน้ำผสมที่เราเตรียมไว้ลงไปในเครื่องปั่น
4. ปั่นส่วนผสมทั้งหมดจะละเอียด
          เพียงเท่านี้เราก็จะได้น้ำจิ้มซีฟู๊ดรสเด็ด ฝีมือตัวเองแล้ว เห็นไหมครับ ขั้นตอนไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด คราวนี้เราก็หาเนื้อหรืออาหารทะเลมาทำกินกันได้แล้ว
ขอบคุณสูตรจาก คุณ baokalasin สมาชิกเว็บไซต์พันทิป

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2558

*  กล้วยตาก ทำเองได้ง่ายๆ แค่มีแดด  *
กล้วยตาก

          วันไหนมีแดดจัดๆ และมีกล้วยเหลือๆที่บ้าน อย่าเพิ่งทิ้ง มาลองทำกล้วยตากกันดูไหมครับท่านผู้อ่าน กินเพลินๆ ตอนนั่งดูทีวี หรือนั่งทำงาน อ่านหนังสือ และวันนี้ผมจะพาทุกท่านมาดูขั้นตอนการทำ พร้อมกันแล้วก็มาเตรียมวัตถุดิบกันเลย
วัตถุดิบที่ต้องเตรียมในการทำกล้วยตาก
1. กล้วยน้ำหว้าแก่
2. เกลือป่น
3. น้ำ
ขั้นตอนการทำกล้วยตาก
1. แกะเปลือกกล้วยน้ำหว้าออก เรียนบนภาชนะที่สะอาดและสามารถทนแดดได้นาน 
2. ตากแดด ประมาณ 4 - 5 แดด (ต้องพลิกกลับด้านอยู่เสมอ)
3. ละลายเกลือกับน้ำโดยตั้งไฟ จากนั้นทิ้งไว้ให้น้ำเย็น
4. หาอะไรทับกล้วยให้แบน
5. น้ำกล้วยไปล้างในน้ำเกลือที่ละลายแล้ว
6. นำไปตากแดดอีก 1 - 2 แดด จนกล้วยแห้ง
7. นำกล้วยที่เก็บมาลงไปในหม้อ ปิดฝา ทิ้งไว้ 1 คืน เพื่อให้น้ำตาลในกล้วยไหลออกมา (ทำให้กล้วยเงาและไม่แห้ง)
8. นำใส่ภาชนะปิดสนิท พร้อมรับประทาน
เทคนิค
-กล้วยที่นำมาตากนั้น ถ้าอยากให้สวย ต้องเป็นกล้วยที่สุกงอม
-การเก็บกล้วยที่ตากไว้ ก่อนจะนำไปตากในวันต่อไป ก็ควรเก็บใส่ถุงพลาสติก ปิดให้แน่น ป้องกันกล้วยดำ และแมลง
ขอบคุณข้อมูลจาก : Kapook

ก๋วยเตี๋ยวเส้นคลุก อร่อยขางทาง ที่เชียงใหม่

*  ก๋วยเตี๋ยวเส้นคลุก อร่อยขางทาง ที่เชียงใหม่  *
ก๋วยเตี๋ยวเส้นคลุก 1
          ก๋วยเตี๋ยวเส้นคลุก ร้านเล็กๆริมทางเข้าหลังมช. มีเมนู คือ ข้าวซอย เย็นตาโฟน และทีเด็ดของทางร้านต้องยกนิ้วให้เลย นั่นคือ ก๋วยเตี๋ยวเส้นคลุก ซึ่งเป็นก๋วยเตี๋ยวแห้งที่นำมาคลุกเคล้าเคราเครื่องปรุงรสต่างๆ ที่ขออุบไว้เป็นสูตรของทางร้าน เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงต่างๆ เช่น ไข่ต้ม แคบหมู ลูกชิ้น ส่วนเส้นก็จะมีครบทุกเส้น คือทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ หมี่ขาว และบะหมี่ แต่เราแนะนำให้ชิมก่อนปรุงนะครับ เพราะพริกที่นี่นั้นเผ็ดเอามากๆ ซึ่งราคาเริ่มต้นแค่ 30 บาท!! เท่านั้น
ก๋วยเตี๋ยวเส้นคลุก 2
ร้านตั้งอยู่ : หน้าประตูคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เวลาเปิดร้าน : 9โมงเช้า ถึง 2 ทุ่ม ทุกวัน
โทรศัพท์ 082-1814887
เพจของทางร้าน : ก๋วยเตี๋ยวคลุก ลูกชิ้นหมูยอโกไข่เจ๊น้อย หลังมอ
ขอบคุณข้อมูลจาก : reviewchiangmai

วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เผยสูตรการทำปลาร้า

 *  เผยสูตรการทำปลาร้า  *
ปลาร้า
ปลาร้า เป็นเครื่องปรุงรสที่เยี่ยมในอาหารอีสาน เช่นถ้าส้มตำลาวขาดปลาร้าไปแล้ว ก็จะไม่มีความอร่อยเลย และการทำปลาร้าเป็นการถนอมอาหารอีกชนิดหนึ่ง ลองมาดูการทำปลาร้ากัน
ก่อนอื่นก็ต้องเตรียมวัตถุดิบและอุปกรณ์
  1. ปลาสด(ปลาแม่น้ำ) จำนวน 150 กิโลกรัม
  2. เกลือ 15 กิโลกรัม
  3. ข้าวคั่ว 15 กิโลกรัม
  4. ไม้ไผ่ขนาดยาวกว่าปากโอ่งเล็กน้อย 2 ชิ้น
  5. ตาข่าย พลาสติก ขนาดเท่าปากโอ่ง
  6. โอ่งมังกรขนาดใหญ่ 1 ใบ
*สัดส่วนตามที่ต้องการได้เลยนะครับ
ขั้นตอนการทำปลาร้า
  1. นำปลาสดที่หามาได้ ทำความาสะอาด ควักไส้และขี้ปลาออก สับปลาพอหยาบ ประมาณ 2 นิ้ว ถ้าตัวเล็กก็ไม่ต้องสับ
  2. นำปลาที่สับแล้ว ใส่โอ่งที่เตรียมไว้
  3. นำเกลือ 15 กิโลกรัมใส่ในโอ่ง คลุกเคล้าให้เข้ากันกับปลา
  4. หมักทิ้งไว้ 1 สัปดาห์
  5. เมื่อครบ 1 สัปดาห์แล้วเอาข้าวคั่วจำนวน 15 กิโลกรัมมาคลุกเคล้าในโอ่ง
  6. นำตาข่ายพลาสติกมาปิดปลาไว้ เอาไม้ไผ่มากลัดให้แน่น
  7. ใส่น้ำเปล่าให้เต็มโอ่ง เพื่อป้องกันแมลงวันมาวางไข่
  8. หมักทิ้งไว้ ประมาณ 3 เดือน หรือไม่เกิน 1 ปี
  9. เพียงเท่านี้ก็สามารถนำมาประกอบอาหารได้แล้ว
เทคนิคการทำปลาร้าให้อร่อย
อยู่ที่การเลือกวัตถุดิบสำคัญ นั่นคือปลา จะต้องเป็นปลาไทยเท่านั้น เช่น ปลาสร้อย ปลาตะเพียน ปลาช่อน ฯลฯ

อาหารญี่ปุ่น สไตล์ปิ้งย่าง ต้อง "ไดฟูกุ"

 *  อาหารญี่ปุ่น สไตล์ปิ้งย่าง ต้อง "ไดฟูกุ"  *
ปิ้งย่าง สไตล์ญี่ปุ่น
          เชื่อได้ว่า อาหารญี่ปุ่นนั้น ถูกปากคนไทยแน่นอน เพราะถ้าดูร้านอาหารตามห้างสรรพสินค้า ก็จะมีร้านอาหาร ที่มาจากญี่ปุ่นซะส่วนใหญ่ ทั้งปิ้งย่าง ต้ม ทอด หรือเมนูจาน และรสชาติของมันยังถูกปากคนไทยอีกด้วย ดังนั้นร้านอาหารที่เรามานำเสนอวันนี้ คือ ร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น ที่วัตถุดิบคัดสรรมาเป็นพิเศษ ในราคาย่อมเยากว่าร้านอื่นๆ กับร้าน Daifuku Yakiniku Buffet
ร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น
ร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น
         ทีเด็ดของทางร้านมีทั้ง สถานที่ เพราะตกตแ่งสไตล์ญี่ปุ่น ทำให้ได้กลิ่นอาย พร้อมทั้งที่นั้นที่นั่งพื้นแต่สามารถพักขาด้านใต้ได้ หรือจะนั่งเป็นแบบโต๊ะเก้าอีก ต่อไปก็คือน้ำจิ้ม ที่มี 3 แบบ 3 สไตล์ ทั้งซีฟู๊ดรสจัดจ้าน ซอสญี่ปุ่น และน้ำจิ้มสูตรลับของไดฟูกุเอง เมื่อทานกับเนื้อที่นำมาปิ้งย่างแล้ว ต้องติดใจอย่างแน่นอน
ราคาจะอยู่ที่ 329 บาท/คน/1 ชั่วโมง 30 นาที
แถมทางร้านยังจัดโปรโมชั่นต่างๆ เช่น มา4จ่าย3 หรือ ส่วนลด 10% 20%
สาขาของร้านก็จะมีทั้ง จังหวัดอุบลราชธานี ขอนแก่น สะดวกที่ไหนไปที่นั่นได้เลย
เบอร์โทรของร้าน 043-042464

วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2558

มาเรียนรู้ วิธีทำปลาเผาเกลือ

*  มาเรียนรู้ วิธีทำปลาเผาเกลือ  *

ปลาเผาเกลือ

ส่วนประกอบ
1. ปลานิล 1 ตัว
2. เกลือ 1/2 กิโลกรัม
3. เหล็กเผา, เตาย่าง, ถ่านก่อไฟ

วิธีทำ ปลาเผาเกลือ
1 ปลานิล 1 ตัว ล้างทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ผ่าท้องเอาไส้และเอาเหงือกออก แต่ไม่ต้องขูดเกล็ดออกนะครับ  เสร็จแล้วล้างให้สะอาดอีกครั้ง  เอาตะไคร้ 1 ต้นทุบให้พอแหลก ยัดเข้าไปในท้องปลา (ระวังอย่าแหวกท้องปลากว้างมากเกินไป จะทำให้ท้องแตก

2 เกลือผง 1/2 กิโลกรัม ใส่กะบะอลูมิเนียม  แล้วเอาปลามาตั้ง เอาเกลือทาทวนเกล็ดจากหางไปทางหัว พยายามกดให้แน่นๆ ให้เกลือแทรกเข้าไปในเกล็ดปลา ทำทั้ง 2 ด้าน เสร็จแล้วเกลือที่เหลือลูบพอกตัวปลาให้หนา

3 เอาปลาที่พอกเกลือเสร็จแล้วไปย่างบนเตาถ่าน เทคนิคการย่างคือก่อไฟให้ติดก่อนแล้วเอาขี้เถ้ากลบให้เหลือแต่ความร้อนระอุขึ้นมา เอาตะแกรงมาตั้งบนเตา แล้วเอาตะแกรงอีก 1 อันมาวางทับ(ใช้ตะแกรง 2 อัน) ย่างปลาไปเรื่อยๆประมาณ 15 นาที พอให้เกลือเปลี่ยนสีก็กลับด้านย่างเหมือนเดิม  เมื่อปลาสุกให้ลองยกดู จะรู้สึกว่าปลามีน้ำหนักเบาขึ้นมาก

4 ปลาสุกดีแล้ว ห้ามแกะปลาออกจากตะแกรงเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกลือและหนังปลาหลุดติดตะแกรง ทำให้ดูแหว่งๆเป็นลายตะแกรงเลย ให้ใช้วิธีเคาะตอนที่เหล็กตะแกรงยังร้อนๆอยู่  โดยอาจจะใช้เหล็กคีบถ่านก็ได้เคาะที่ตะแกรงย่างปลาแรงๆ ปลาก็จะหลุดเด้งออกมาจากตะแกรงอย่างง่ายดาย และไม่ทำให้เกลือและหนังปลาหลุดติดตะแกรงด้วย

5 เวลากิน กินคู่กับน้ำจิ้มสามรสหรือน้ำจิ้มแจ่ว เคียงด้วยผัก
ขอบคุณข้อมูลจาก : Paicooker