วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ไข่กระทะไฮโซ (Hiso Pan-Fried Eggs)

ไข่กระทะไฮโซ
ไข่กระทะไฮโซ
ไข่กระทะไฮโซ เมนูอาหารเช้ายอดฮิตนัมเบอร์วัน แต่มาเพิ่มความพรีเมี่ยมด้วยวัตถุดิบที่สรรหามาเพิ่ม เริ่มด้วยของในตู้เย็นก่อนเลย ลองหาวัตถุดิบดีๆมาเป็นส่วนประกอบไข่กระทะไฮโซของเรา ว่าอันไหนจะดูดีมีราคา แล้วแต่ความชอบของเราเลย หรืออาจจะแวะไปช้อปปิ้งของในห้าง ร้านสะดวกซื้อ หรือตามตลาดก็ได้
ไปเริ่มกันเลย…..
วัตถุดิบที่ต้องเตรียม– น้ำมันมะกอก
– หอมใหญ่สับ
– เบคอน,ไส้กรอก,กุลเชียง(หรืออะไรก็ได้ที่เราหามาตามใจชอบ) หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
– ไข่ไก่
– พาสเลย์สับ
– ซอสถั่วเหลือง
– พริกไทยดำบดหยาบ
– เนยสด
วิธีทำไข่กระทะไฮโซ1. ใส่น้ำมันมะกอกและเนยลงไปในกระทะเล็กน้อยเปิดไฟกลาง ใส่หอมใหญ่ ผัดจนเหลือง
2. จากนั้นใส่เนื้อต่างๆที่เราได้จัดสรรมาผัด ปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลือง ผัดจนแฮมเริ่มมีน้ำมันออกมา
3. ตอกไข่ไปกลางกระทะ เอียงกระทะให้ไข่ไปทั่วกระทะ(ให้ท่วมของที่เราผัดตอนแรก) รอจนไข่ขาวเริ่มสุกก็โรยพาสเลย์สับ พริกไทยดำ
เพียงแค่นี้ ไข่กระทะไฮโซก็พร้อมให้คุณได้ลิ้มลองความอร่อยของผีมือตนเองแล้ว

ดอกกะหล่ำอบชีส เมนูชีสๆ ทำเองง่ายๆ

ดอกกะหล่ำอบชีส
ดอกกะหล่ำอบชีส
ดอกกะหล่ำอบชีส เชื่อว่าเมนูชีส สามารถดึงดูดทุกคนได้แน่นอน เพราะความนุ่ม หวาน เหนียบหนุบ ของชีส โอโหนึกแล้วน้ำลายก็ไหลย้อย ยิ่งอบร้อน หอมๆ แล้วละก็ ต้องเอามากินในทันใด ความอ้วนไม่ต้องไปสนใจ ไม่เป็นไรหรอก
ถ้าคุณไปค้นตู้เย็นแล้วพบดอกกะหล่ำอยู่หนึ่งหัว ก็คงหนีไม่พ้น เมนูผัดผัก ไม่ก็ใส่แกงส้ม นึ่งกินกับน้ำพริก แต่ถ้าฝรั่งก็มักจะจับดอกกะหล่ำนั้นมาอบชีส ลองเปลี่ยนสไตล์มาเป็นฝรั่งวันนึงก็คงไม่เป็นไรหรอกเนาะ ในวันหยุดที่อยากทำอาหารกินเอง งั้นเรามาเริ่มกันเลย
ส่วนผสมที่เราต้องเตรียม
* เนยเค็ม 1 ช้อนโต๊ะ
* หอมใหญ่สับ 1 ช้อนโต๊ะ
* แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ
* นมสด 2 ถ้วยครึ่ง
* วิปปิ้งครีม
* เกลือป่น
* พริกไทยดำบด
* ดอกกะหล่ำ ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ 300-400 กรัม
* เบคอน(หรือแฮม) หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 100 กรัม
* มะกะโรนีต้มสุก 200 กรัม
* มอสซาเรลลาชีสขูดฝอย
วิธีทำดอกกะหล่ำอบชีส
1. ใส่เนยลงไปในกระทะ เปิดไฟอ่อน พอละลายก็ใส่หอมใหญ่สัับลงไปผัดจนสุก แล้วใส่แป้งสาละอเนกประสงค์ลงไปผัดจนสุก ค่อยๆเติมนมสดไป คนเรื่อยๆให้เข้ากัน
2. ใส่วิปครีมลงไป ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย (ปรุงได้ตามใจชอบ) จากนั้นเคี่ยวจนข้น ยกลงจากเตา พักไว้
3. ใส่เนยลงไปในกระทะ ผัดดอกระหล่ำจนเกือบสุก ตามด้วยเบคอนและส้นมะกะโรนีที่ต้มสุกแ้ลวลงไป ผัดให้เข้ากัน
4. ตักส่วนที่ผัดทั้งหมดลงไปใบภาชนะสำหรับอบ จากนั้นโรยมอสชีสขูดฝอยลงไป(ใส่ได้เยอะตามใจชอบ) นำไปอบอุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ สังเกตุว่าชีสละลายพร้อมกับเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาล นำออกจากเตาอบ พร้อมเสริฟความอร่อย
เพียงแค่นี้ เมนูดอกกะหล่ำอบชีสก็มาอยู่ตรงหน้าเราแล้ว สีเหลืองนวล…หอมชีส น่ากินมากๆ พร้อมรับประทานพร้อมกับดูหนังเรื่องโปรด หรือทานเป็นอาหารว่างก็ยังได้

ไร่บุญรอด ของบริษัท บุญรอด ผู้ผลิตเบียร์สิงห์

ไร่บุญรอด
ไร่บุญรอด
ไร่บุญรอด หรืออีกชื่อหนึ่งคือ สิงห์ปาร์ค เชียงราย ตั้งอยู่ที่อ.เมือง จ.เชียงราย เป็นไร่ของบริษัทบุญรอดที่ผลิตเบียร์สิงค์และผลิตภัณฑ์ต่างๆ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่สวยงามมากๆ เพราะภายในไร่บุญรอดมีการปลูกพืชหลากหลายชนิด มีแปลงปลูกข้าวบาร์เลต์อยู่ด้านหน้า ไร่ชาอู่หลงสายพันธุ์จินซวนที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ถูกแวดล้อมด้วยขุนเขาและสายหมอกจางๆ กว่า 600 ไร่สูงจากระดับน้ำทะเล 450 เมตร ยาพารากว่า 2,700 ไร่ และยังมีมัลเบอร์รี, พุทราพันธุ์ซื่หมี่, ราสเบอร์รี, เมลอน และพืชผักผลไม้เมืองหนาวอีกหลากหลายชนิดที่อยู่ภายในไร่บุญรอด
ไร่บุญรอด เปิดให้บริการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 ก่อนจะมาเปลี่ยนชื่อเป็น สิงห์ ปาร์ค เชียงราย ตั้งอยู่ถนนสายเด่นห้า – ดงมะดะ ห่างจากตัวเมือง 9 กิโลเมตร สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 450 เมตร อุณหภูมิเฉลี่ย 19.1 องศาเซลเซียส เป็นพื้นที่ลาดเนินเขา มีภูเขาเล็กๆรายรอบ
พื้นที่ที่กว้างขวางของไร่บุญรอด ทำไห้มีวิธีชมไร่ 2 วิธี คือ นั่งรถสบายๆ ชมทัศนียภาพของไร่ได้แบบเต็มที่ โดยที่จะมีไกด์คอยบอกรายละเอียดต่างๆ และวิธีที่ 2 คือ ปั่นจักรยานชมวิวชิลๆ ตามกำลังขา ซึ่งมีไว้บริการหลายคัน
ไร่บุญรอด 9 ไร่บุญรอด
ไร่บุญรอด 4 ไร่บุญรอด
ไร่บุญรอด 3 ไร่บุญรอด
ไร่บุญรอด 8 ไร่บุญรอด 10
ทั้งนี้ ไร่บุญรอด หรือ สิงห์ปาร์ค เปิดบริการให้ชมไร่ฟรี! ทุกวัน
ตั้งแต่เวลา 10.00 – 16.00 น.
รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.boonrawdfarm.com / 080-9002686

วัดป่าภูก้อน สวรรค์บนดิน แห่งเมืองอุดรธานี

วัดป่าภูก้อน
 “วัดป่าภูก้อน” ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสม ท้องที่บ้านนาคำ ต.บ้านก้อง อ.นายูง จ. อุดรธานี อันเป็นรอยต่อแผ่นดิน 3 จังหวัด คือ อุดรธานี เลย และหนองคาย สร้างขึ้นเมื่อปี 2530 โดยคุณปิยวรรณและคุณโอฬาร วีรวรรณ ผู้มีความเลื่อมใสในปฏิปทาของพระป่า และได้ทำเรื่องขอใช้ที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาตินายูงน้ำโสม เพื่อสร้างวัดในเนื้อที่ 15 ไร่ จากกรมป่าไม้
วัดป่าภูก้อน
วัดป่าภูก้อน 3
ภายในวัดมีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุ ในพระเกศพระร่วงโรจน์ศรีบูรพา ซึ่งเป็นประธานประดิษฐานหน้าองค์พระปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์ มีพระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี  พระพุทธไสยาสน์หินอ่อนสีขาว ความยาว 20 เมตร สร้างด้วยหินอ่อนจากประเทศอิตาลี ที่นำมาเรียงซ้อนกันถึง 42 ก้อน   ซึ่งเป็นหินขาวอ่อนที่มีความสวยงามและทนทานมากที่สุด ใช้ระยะเวลาในการสร้างถึง 6 ปี สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา ในปี 2554 คณะพุทธบริษัทวัดป่าภูก้อนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน จึงมีการจัดสร้างพระพุทธไสยาสน์องค์นี้ขึ้น ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ทางพุทธศิลป์แห่งรัชกาลที่ 9
นอกจากพระวิหารและพระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนีที่เป็นจุดเด่นของวัดป่าภูก้อนแล้ว ยังมี พระปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์ ที่อยู่ในอาณาบริเวณเดียวกันถัดมาทางด้านล่างก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และรูปปั้นหินอ่อนของเหล่าเกจิอาจารย์ชื่อดังของประเทศไทย ซึ่งมีศิษยานุศิษย์อยู่มากมาย โดยนักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางขึ้นบันไดยาวเพื่อเข้ามายังเจดีย์เพื่อเข้าไปสักการะบูชา แม้จะสร้างขึ้นได้ไม่นานแต่ที่นี่ถูกยกให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนชาวอีสานอีกหนึ่งแห่ง
วัดป่าภูก้อน 4
วัดป่าภูก้อน
การเดินทางไปวัดป่าภูก้อน
การเดินทาง เมื่อมาถึง อุดรธานี ให้ออกทางหลวงเส้นจังหวัดหนองคาย ไปถึงหลักกิโมลเมตรที่ 13 แยกซ้ายไป อ.บ้านผือ อ.นายูง จนถึง บ.นาคำใหญ่ จะมีทางเลี้ยวเข้าวัดป่าภูก้อน รวมแล้วระยะทางจากตัวเมืองอุดรธานี ถึงวัดป่าภูก้อน 125 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที รถทุกชนิดสามารถขึ้นได้ยกเว้นรถบัสคันใหญ่ต้องจิดไว้ตรงปากทางขึ้นแล้วใช้บริการรถสองแถวขึ้นไปยังวัด เสียค่าบริการ คนละ 20 บาท
ขอบคุณข้อมูล : paiduaykan.com , คุณริมโขง2009 สมาชิกชาวPantip

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่หลายคนคุ้นหูว่า “วัดพระแก้ว” เป็นวัดที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช(รัชกาลที่ 1)โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2325 และเป็นวัดในพระราชวังในสมัยอยุธยา และมีประสงค์ให้ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต ที่นำมาจากกรุงเวียงจันทร์ และวัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์
วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นวัดที่สำคัญและเป็นที่เชิดหน้าชูตาของประเทศ พร้อมกับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศอีกด้วย
ในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบ ๒๐๐ ปี ในปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ที่ผ่านมา การบูรณปฏิสังขรณ์ที่ผ่านมา มุ่งอนุรักษ์สถาปัตยกรรมและศิลปกรรมอันเป็นมรดกชิ้นเอกของชาติ ให้คงความงามและรักษาคุณค่าของช่างศิลปไทยไว้อย่างดีที่สุด เพื่อให้วัดพระศรีรัตนศาสดารามนี้อยู่คู่กับกรุงรัตนโกสินทร์ตลอดไป
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ข้อมูลจาก : วิกิมีเดีย
ภาพ : อินเตอร์เน็ต

อาหารประจำคนไทย ไม่ต้องคิดยาก สั่งเลย “กะเพราหูสับ ไข่ดาว”

กะเพราไข่ดาว
ผัดกะเพรา (Phat kaphrao) ถือเป็นอาหารที่ร้านอาหารตามสั่ง ทำบ่อยเป็นอันดับ 1 เลย เพราะถูกปากคนไทยมากที่สุด ทำง่าย และรสชาติอร่อย
ใบกะเพรา (Holy basil) มีประโยชน์มากมาย เช่น วิตามินซีสูง เบต้าแคโรทีน เหล็กและฟอสฟอรัส พร้อมกับสรรพคุณช่วยไล่ลมในกระเพาะ แก้ท้องอืด จุกเสียด แถมใบกะเพาะนำมาดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ได้อีกด้วย

เครื่องปรุง+ส่วนผสม สำหรับทำผัดกะเพรา

เนื้อสัตว์(เลือกได้ตามใจชอบ) 1 ถ้วย หรือประมาณ 450 กรัม
กระเทียมบด 1 ช้อนชา
หัวหอมใหญ่ 1/2 ถ้วยตวง
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
ซิอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 1 ช้อนโต้ะ
ผงรสดี 1 ช้อนชา
ใบกะเพรา 1 ถ้วยตวง
พริกบด 1 ช้อนโต้ะ

วิธีทำผัดกะเพรา

1. ตั้งน้ำมันในกระทะจนร้อน จากนั้นใส่กระเทียม พริก ลงไปผัดประมาณ 5-10 วินาที ผัดจนกลิ่นเริ่มหอม ใส่เนื้อลงไปผัดต่อและผัดจนเนื้อสุก
2. จากนั้นปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำตาล ผงรสดี น้ำปลา น้ำเปล่านิดหน่อย(ปรุงรสตามใจชอบ)
3.ใส่ใบกะเพราลงไปในกระทะ ปิดไฟพร้อมกับคนให้เข้ากัน
4.ตักผัดกะเพราใส่จาน ทานกับข้าวหอมมะลิร้อนๆของไทย ทานคู่กับพริกน้ำปลาหรืออาจจะเพิ่มไข่ดาว,ไข่เจียวไปด้วย ยิ่งจะเพิ่มความแซ่บเข้าไปอีก
*สำหรับทาน 2 ท่าน
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต