วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558

วัดถ้ำเสือ กาญจนบุรี

วัดถ้ำเสือ
วัดนี้มีพระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่อยู่บนยอดเขามีพุทธลักษณะที่สวยงามมาก และยังมีอุโบสถอัฏมุขเป็นลักษณะทรงไทยมีลวดลายสวยงามวิจิตรตระการตา ข้างๆ มีเจดีย์เกศแก้วมหาปราสาทสูง 69 เมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินหรือใช้ลิฟท์ขึ้นไปชมวิวทะเลสาบและเขื่อนแม่กลอง
การเดินทาง          วัดถ้ำเสือ ตั้งอยู่ที่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี อยู่ห่างจากเขื่อนแม่กลองประมาณ 5 กิโลเมตร ทางเข้าวัดต้องผ่านตัวเขื่อนแม่กลองแล้วจะมีป้ายบอกเลี้ยวขวาไปประมาณ 2 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายประมาณ 200 เมตร
ค่าเข่าชม : ฟรีทั้งคนไทยและต่างประเทศ

วัดถ้ำเสือ

วัดถ้ำเสือ 3

วัดถ้ำเสือ 2
วัดถ้ำเสือ 1

วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2558

อันซีนอีสาน! ภูห้วยอีสัน จ.หนองคาย

“ภูห้วยอีสัน”  หลายคนคงจะงงๆ และมีคำถามในใจว่า …. อยู่ที่ไหน มันคืออะไร มีอะไรเที่ยวบ้าง วันนี้เราจึงพาเพื่อนๆไปรู้จักกับ ภูห้วยอีสัน จากบันทึกการเดินทางของ คุณชานมชงเอง (สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม) พร้อมภาพสวยๆ มาฝากเพื่อนๆกันได้ชมความสวยงามสุดอันซีนกันครับ

ภูห้วยอีสัน ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ห่างจากเชียงคานหรือจุดชมวิวภูทอกราว ๆ 90 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว ๆ ชั่วโมงนิด ๆ ก็มาถึง เพิ่งค้นพบในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และเป็นอันซีนแบบไทยแท้แน่นอน!

ความงดงามของภูห้วยอีสันอยู่ที่ทะเลหมอก แบบอันซีนไทยแลนด์โดยแท้จริง การท่องเที่ยวฉบับท้องทุ่ง บรรยากาศดิบๆ เห็นแม่น้ำโขงและทะเลหมอกจากมุมสูง และช่วงที่น่าเที่ยวที่สุด ที่สามารถมองเห็นทะเลหมอกได้สวยที่สุด ก็คงต้องอยู่ในหน้าหนาวหนักๆ คือ เดือน พฤษจิกายน – มกราคม ของทุกปี ต้องเป็นช่วงที่หนาวสุดๆ ลมนิ่งๆ

สำหรับที่พัก ตัวอำเภอเมืองห่างจากจุดชมวิว ประมาณ 10 กิโลเมตร แต่แนะนำให้นอนที่บ้านม่วงเลย มีที่พักหรือนอนเต็นท์ก็ได้ เพราะตื่นเช้ามาก็ขึ้นรถอีแต๊ก ที่มีบริการตามจุดให้บริการ และใช้เวลาในการนั่งรถอีแต๊กขึ้นภูประมาณ 20 นาที

เมื่อทุกคนพร้อมชมความสวยงามของภูห้วยอีสันแล้ว ก็ไปรับชมกันเลย….
ภูอีสัน2
ภูอีสัน1
ภูอีสัน3
ภูอีสัน4
ภูอีสัน5
ภูอีสัน6
ภูอีสัน7
ภูอีสัน8
ภูอีสัน9
ภูอีสัน10.
ภูอีสัน11
ภูอีสัน12
ภูอีสัน13
ภูอีสัน14
ภูอีสัน15
ภูอีสัน16
ภูอีสัน17
ภูอีสัน18
ภูอีสัน19
ภูอีสัน20
ภูอีสัน21
ภูอีสัน22
ภูอีสัน23
ภูอีสัน24
ภูอีสัน25
ภูอีสัน26
ภูอีสัน27
ภูอีสัน28

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณชานมชงเอง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก chanomworld

วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ท่องเที่ยวหน้าฝน กับเหตุผลที่ต้องออกไปเที่ยว

จากสถิติการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ช่วงฤดูฝนนักท่องเที่ยวมักออกเดินทางไปท่องเที่ยวหน้าฝนน้อยที่สุด เพราะด้วยเหตุผลที่ว่ามันชื้นแฉะ การเดินทางยากลำบาก เป็นต้น แต่ถ้าเหตุผลเหล่านี้ช่วงให้คุณอยากที่จะออกไปท่องเที่ยวหน้าฝนบ้างหล่ะ เพราะการออกไปผจญภัยหน้าฝนมักจะได้รับสิ่งต่างๆที่ไม่เหมือนฤดูอื่น แถมยังมีข้อดีอีกมากมาย เรามาดูกันว่ามีเหตุผลใดบ้าง
ท่องเที่ยวหน้าฝน 1
1. อากาศเย็นสดชื่น – น้ำ เป็นสิ่งที่ทำให้แหล่งป่าไม้ ธรรมชาติสมบูรณ์ที่สุด ใบไม้ ต้นไม้เขียวขจี
ท่องเที่ยวหน้าฝน 2
2. ทัศนียภาพมองไปเป็นเขียว – แน่นอนว่าเมื่อฝนตก ต้นไม้ ใบหญ้าจะเจริญเติบโตได้ดี หุบเขา ภูเขา เป็นสีเขียวทั้งลูก มองไปทางไหนมีแต่ความชุ่มฉ่ำ
ท่องเที่ยวหน้าฝน 3
3. ทะเลหมอกที่สวยงาม – ส่วนมากทุกคนจะคิดว่าทะเมหมอก จะพบเจอได้แต่หน้าหนาวเท่านั้น แต่ทะเลหมอกเกิดได้ง่ายสุดคือหน้าฝน
ท่องเที่ยวหน้าฝน 4
4. ดอกไม้เบ่งบานในช่วงนี้ – เมื่อต้นไม้ได้รับน้ำอย่างเต็มที่ ก็เป็นเวลาเหมาะเจาะในการเบ่งบานของดอกไม้ นานาพรรณ

5. เงียบสงบ – เพราะไม่ค่อยมีใครจะกล้าท้าทายสายฝนไปเที่ยว


















6. ได้รับส่วนลด – ที่พักและร้านอาหารจะลดราคาให้อย่างเต็มที่ มีการจัดโปรโมชั่น กระหน่ำลดราคาห้องพัก
ท่องเที่ยวหน้าฝน 5
7. กิจกรรมมันส์ๆ – เช่นล่องแก่ง หน้าฝน น้ำเยอะ ล่องแก่งเร้าใจสุด
ขอบคุณเนื้อหา : Kapook.com

วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Full Moon Party (ฟูลมูนปาร์ตี้)

ฟูลมูน Fullmoon
ฟูลมูนปาร์ตี้ (Full Moon Party) เป็นงาน เฉลิมฉลองในคืนพระจันทร์เต็มดวง(คืนวันเพ็ญ)
เป็นงานฉลองบนชายหาด ที่จัดขึ้นที่หาดริ้น เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฏร์ธานี ประเทศไทย ทุกๆคืนที่มีพระจันทร์เต็มดวง
ความเป็นมา : เป็นการจัดเลี้ยงส่งขอบคุณให้นักท่องเที่ยวประมาณ 20-30 คน ในปี พ.ศ. 2528 และต่อมา
ก็เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วจากการปากต่อปาก จนกระทั่งปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมถึง 30,000 คน!!
บาร์ทุกร้านริมชายหาดจะเปิดเพลงแนวอาร์แอนด์บี และ เร็กเก้ หลังดวงอาทิตย์ตกและจัดต่อเนื่องไปจนกระทั่ง
ดวงอาทิตย์ขึ้น ของวันใหม่ การเข้าร่วมงานไม่เสียค่าใช้จ่าย และผู้ประกอบการในพื้นที่ พยายามสร้างความถี่ของงาน
โดยการจัดในคือที่พระจันทร์ครึ่งดวง (Half Moon Party) และ ในคืนเดือนมืด (Black Moon Party)

ขอบคุณภาพ : อินเตอร์เน็ต

วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2558

สถานที่ท่องเที่ยว หน้าฝน

สำหรับคนไทย ชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิดใจ การท่องเที่ยวก็ควรสนับสนุนประเทศไทยกันนะครับคุณผู้อ่าน สถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ไม่แพ้ชาติอื่นๆอย่างแน่นอน
และสำหรับคนที่กำลังมองหน้า “สถานที่ท่องเที่ยวหน้าฝน” เพราะหน้าฝนอาจจะเที่ยวลำบาก ไปไหนมาไหนลำบาก แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่คอยต้อนรับแขกให้มายืน เยี่ยมชมความสวยงาม และเชื่อได้เลยว่า สายฝนก็ไม่สามารถทำให้คุณเหงาหงอยอยู่แต่บ้านแน่นอน ถ้าคุณรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวหน้าฝน แบบนี้ ไปลองชมกันเลย
1. น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก
สถานที่ท่องเที่ยว หน้าฝน
ฤดูฝนเป็นช่วงที่น้ำตกสวยที่สุด ซึ่งการเดินเที่ยวชมน้ำตกแต่ละชั้นต้องเดินผ่านสายน้ำขึ้นไป “น้ำตกทีลอซู” คำว่า ทีลอซู เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า น้ำตกดำ ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ห่างจากที่ทำการเขตฯ 1.5 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นน้ำตกเขาหินปูนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนความสูงจากระดับทะเลปานกลาง 900 เมตร เกิดจากลำน้ำห้วยกล้อท้อทั้งสายที่ไหลแผ่ปกคลุมพื้นที่หน้าผากว้างกว่า 500 เมตร ก่อนที่จะทะยานลงสู่หน้าผาสูงชันลดหลั่นเป็นชั้น ๆ สูงกว่า 300 เมตร เสียงดังกึกก้องบ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ นับเป็นน้ำตกที่มีความยิ่งใหญ่และสวยที่สุดในเมืองไทย โดยลักษณะเด่นของที่นี่ คือ น้ำใสสะอาด ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ททท. สำนักงานตาก โทรศัพท์ 0 5551 4341-3 หรือที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง โทรศัพท์ 0 5557 7318
2.เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฏร์ธานี
สถานที่ท่องเที่ยว หน้าฝน1
     เขื่อนรัชชประภา ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หมู่ที่ 3 ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี 90 กิโลเมตร เป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียวอเนกประสงค์ สูง 95 เมตร ยาว 700 เมตร  บริเวณเขื่อนและอ่างเก็บน้ำร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และสวนสวยงาม อีกทั้งภูเขาหินปูนที่อยู่ในเขื่อนยังมีรูปร่างต่าง ๆ แปลกตาสวยงามตามธรรมชาติ ท่ามกลางผืนน้ำสีเขียวที่ดูอบอุ่นเย็นสบายเหมาะจะมาเที่ยวพักผ่อน ซึ่งในบริเวณเขื่อนรัชชประภาจะมีที่พักให้เลือกมากมาย โดยจะยังมีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว เช่น พายเรือแคนู, เที่ยวถ้ำน้ำทะลุ ซึ่งอยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ 6 กิโลเมตร โดยทางเท้า เป็นถ้ำใหญ่ที่มีธารน้ำไหล มีหินงอกหินย้อยที่งดงาม การเดินเที่ยวถ้ำค่อนข้างลำบากจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทรศัพท์ 0 7728 8817-9, 0 7728 2828 (ในวัน-เวลาราชการ)
3. ล่องแก่งลำน้ำเข็ง จังหวัดพิษณุโลก
สถานที่ท่องเที่ยว หน้าฝน2
สำหรับคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบกิจกรรมท้าทาย ล่องแก่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่พลาดไม่ได้เด็ดขาด โดยเฉพาะการล่องแก่งลำน้ำเข็กที่สนุกสนาน ตื่นเต้น และท้าทาย ที่เริ่มต้นการล่องเรือยางจากบริเวณบ้านทรัพย์ไพรวัลย์ ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง ไปสู่บริเวณตอนบนของน้ำตกแก่งซอง ซึ่งความพิเศษของการล่องแก่งนี้จะเริ่มต้นจากกระแสน้ำนิ่งระดับ 1 และเข้าสู่ระดับน้ำที่มีความสนุกสนานท้าทายขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งถึงระดับสูงสุด คือ ระดับ 5 ในช่วงท้าย ซึ่งลำน้ำจะขนานไปกับทางหลวง หมายเลข 12 (สายพิษณุโลก-หล่มสัก) รวมระยะทางในการล่องแก่งทั้งสิ้นประมาณ 8 กิโลเมตร ผ่าน 18 แก่ง ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง แล้วแต่ระดับน้ำ และความยากง่าย ทั้งนี้ การล่องแก่งลำน้ำเข็ก ไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ลงล่องแก่งโดยเด็ดขาด โดยยึดตามข้อบังคับของชมรมผู้ประกอบการล่องแก่งลำน้ำเข็ก ที่ผู้ประกอบการทุกคนต้องปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานพิษณุโลก โทรศัพท์ 0 5525 2742-3, 0 5525 9907 และ 0 5523 1063 (ในวัน-เวลาราชการ)
4. ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์
สถานที่ท่องเที่ยว หน้าฝน3

ภูทับเบิก ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ตำบลวังบาล ห่างจากอำเภอหล่มเก่า 40 กิโลเมตร ตามเส้นทางจากหล่มเก่าไปภูหินร่องกล้า หรือห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 90 กิโลเมตร มีความสูงจากระดับทะเลประมาณ 1,768 เมตร เป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา มีอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูง จึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล ตอนเช้ามีกลุ่มเมฆ และทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์ นอกจากนี้ ไฮไลท์ที่ใคร ๆ ก็อยากไปเยือนภูทับเบิก คือ แปลงปลูกกะหล่ำปลีกว้างไกลสุดสายตา ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวภูทับเบิก
5. ม่อนแจ่ม จังหวัดเดชียงใหม่
สถานที่ท่องเที่ยว หน้าฝน4
ม่อมแจ่ม ตั้งอยู่บนสันเขาบริเวณหมู่บ้านม้งหนองหอย อำเภอแม่ริม อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 40 นาที  ที่นี่มีลักษณะเด่น คือ อากาศเย็นสบายตลอดปี มีหมอกยามเช้า ช่วงที่เหมาะสำหรับท่องเที่ยว และมีจุดชมวิวสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ทิวภูเขาสลับกันไกลสุดลูกหูลูกตา อีกด้านเป็นแปลงปลูกพืชและไม้เมืองหนาวของโครงการหลวง ยอดเขาทางทิศตะวันออกมีจุดชมวิวม่อนล่อง เหมาะสำหรับชมทิวทัศน์ของพื้นที่โครงการหลวง เป็นจุดชมทะเลหมอกบนหน้าผา มองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล ทางด้านทิศใต้เป็นไหล่เขามองลงไปจะเห็นหมู่บ้านม้งหนองหอย และพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยโดยรอบ ซึ่งเป็นแปลงปลูกผักและวิจัยพืชผักเมืองหนาว นอกจากนี้ บริเวณบนม่อนแจ่มยังมีร้านอาหาร ที่เปิดให้สามารถปรุงอาหารโดยใช้ผลิตผลท้องถิ่นที่ปลูกเอง รวมทั้งมีที่พักในลักษณะแคมปิ้ง รีสอร์ท อีกด้วย
ขอบคุณภาพจาก : อินเตอร์เน็ต
และข้อมูลจาก : ททท , วิกิมีเดีย , region5.prd.go.th, thairoyalprojecttour.com

วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2558

อุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ

อุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ เป็นพื้นที่ในบริเวณที่ราบสูงภาคตะวันออกเฉียง อยู่บนพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่เหนือตอนบน ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู พื้นที่ตอนล่างของจังหวัดอุดรธานี และตอนบนของจังหวัดขอนแก่น โดยมีพื้นที่ ทั้งสิ้น 322 ตรกม. หรือ 201,250 ไร่
สำนักงานอุทยานจะอยู่บริเวณภูพานคำริมทะเลสาบเหนือเขื่อนอุบลรัตน์มีทิวทัศน์ที่สวยงามมาก โดยเฉพาะเวลาพระอาทิตย์ตก ภายในบริเวณที่ทำการอุทยานฯ มีสถานที่ สำหรับตั้งค่ายพักแรมได้ สิ่งที่น่า สนใจส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณภูเก้าในเขตจังหวัดหนองบัวลำภู ได้แก่ ร่องรอยก่อนประวัติศาสตร์ของชุมชน ในสมัยบ้านเชียง เช่น ภาพเขียนสีและภาพสลักตามผนังถ้ำต่างๆ และรอยเท้าไดโนเสาร์ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็น พันธุ์เดียวกับรอยเท้าที่พบที่อำเภอภูเวียง เป็นต้น
การเดินทาง ใช้เส้นทางสายขอนแก่น-เขื่อนอุบลรัตน์ จากนั้นใช้เส้นทางอุบลรัตน์-โนนสัง ระยะทางประมาณ 7 กม.ถึงที่ทำการอุทยานฯ หรือขึ้นรถโดยสารประจำทางสายเขื่อนอุบลรัตน์-โนนสังที่ตลาด อำเภออุบลรัตน์
สอบถามรายละเอียดได้ที่ กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ กรุงเทพฯ โทร. 579-7223,579-5734
อุทยานแห่งชาติภูเก้า ภูพานคำ1
อุทยานแห่งชาติภูเก้า ภูพานคำ3
อุทยานแห่งชาติภูเก้า ภูพานคำ2

วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เขื่อนอุบลรัตน์ ขอนแก่น

เขื่อนอุบลรัตน์ขอนแก่น
ข้อมูลเบื้องต้น : เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน และเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าพลังน้ำแห่งแรกของภาคอีสาน สร้างกั้นลำน้ำพอง สาขาย่อยของแม่น้ำชี 
ที่ตั้ง : ต.เขื่อนอุบลรัตน์ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น 40000
การเดินทาง : เดินทางจาก จังหวัดขอนแก่น ไปทางจังหวัดอุดรธานี 25 กิโลเมตร และเลี้ยวซ้ายสู่เขื่อน ไปอีก 24 กิโลเมตร(หลักกิโลเมตรที่ 470-471)
เขื่อนอุบลรัตน์นอกจากเป็นอ่างเก็บน้ำและยังเป็นแหล่งท่องเที่ยว บริเวณสันเขื่อนน่าสนใจมากเป็นจุดชมวิวสันเขื่อน แถวยังมีร้านอาหารบนแพอีกมากมาย บริเวณใกล้เคียงกัน คอยให้บริการพร้อมกับอาหารที่เริสรสอีกด้วย
และที่พลาดไม่ได้ คือ กราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดพระบาทภูพานคำ ที่อยู่บนยอดเขา สันเขื่อน เห็นวิวที่สวยงาม

เขื่อนอุบลรัตน์ขอนแก่น1

เขื่อนอุบลรัตน์ขอนแก่น2
เขื่อนอุบลรัตน์ขอนแก่น3
เขื่อนอุบลรัตน์ขอนแก่น4

เขื่อนอุบลรัตน์ขอนแก่น5
เขื่อนอุบลรัตน์ขอนแก่น6
เขื่อนอุบลรัตน์ขอนแก่น7